No Widgets found in the Sidebar
การดูดไขมัน

ด้วยเทรนการรักสุขภาพและรักษาหุ่นของตนเองนั้นเป็นอะไรที่ใครหลายๆ คนใส่ใจกันเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ครับ เพราะการที่เรามีหุ่นที่ดีควบคู่ไปกับสุขภาพที่ใช่ เป็นอะไรที่ดีงามเป็นอย่างมากนั้นเอง วันนี้เราจึงอยากพาทุกๆ ท่านไปรู้จักกับนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับ “ความเสี่ยงที่อาจได้รับจากการดูดไขมัน” ที่น่าสนใจและน่าลองกันครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น…เราไปชมกันดีกว่าครับผม

ทำความรู้จักกับการ ดูดไขมัน

การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นการใช้เครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายท่อยาวใส่เข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อดูดไขมันส่วนเกินออกมาจากบริเวณต่าง ๆ ได้แก่ หน้าท้อง สะโพก ต้นขา ต้นแขน คอ ก้น เป็นต้น ทำให้ลดจำนวนไขมันบริเวณส่วนต่าง ๆ ที่สะสมเฉพาะที่ลงได้ แต่การดูดไขมันไม่สามารถแก้ปัญหาผิวเปลือกส้มจากเซลลูไลท์ได้ และสิ่งที่ต้องรู้คือการดูดไขมันไม่สามารถดูดปริมาณมากๆ ในครั้งเดียวกัน เพราะอาจมีความเสี่ยงในการเสียเลือดมาก ซึ่งศัลยแพทย์จะให้การรักษาและคำแนะนำอย่างใกล้ชิด โดยขั้นตอนการดูดไขมันสามารถแบ่งออกเป็น 3 ขั้นหลัก ได้แก่…

●การใส่ Tumescent (ยาชา, ยาที่ทำให้เส้นเลือดหดตัว และตัวยาอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก) เพื่อลดความเจ็บลง และช่วยให้ใช้เวลาพักฟื้นหลังดูดไขมันน้อยลงครับ

●การสลายไขมัน ซึ่งขั้นตอนนี้สามารถทำได้โดยการใช้เครื่องดูดไขมันพลังงานต่าง ๆ เข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดูดไขมันพลังงานน้ำ body-jet (ดูดไขมันและเติมไขมันได้ในเครื่องเดียว) หรือเครื่องดูดไขมันพลังงานคลื่นเสียง Ultra Z, เครื่อง Vaser smooth 2.2เป็นต้น

●ขั้นตอนการดูดไขมันออกมา หลังจากนั้นหมอก็จะรีดน้ำใต้ผิวออกมา และให้เจ้าหน้าที่ใส่ชุดกระชับให้คนไข้ครับ

การดูดไขมันเหมาะสำหรับใครบ้าง?

คนที่เหมาะกับการดูดไขมัน คือคนที่มีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ตามจุดต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา เหนียง หรือน่องขา เป็นต้น แต่ไขมันที่สะสมในช่องท้องจะไม่สามารถกำจัดได้ ซึ่งการจะกำจัดไขมันในช่องท้อง จะต้องอาศัยระบบเผาผลาญในร่างกายหรือการออกกำลังกายเพียงเท่านั้น หลักๆ แล้ว ไขมันที่เราดูดออกมานั้น เป็นไขมันที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ซึ่งไม่เป็นอันตราย และไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ มีผลต่อรูปลักษณะภายนอกเท่านั้น ทำให้เราดูอ้วน ดูไม่สวยงาม ส่งผลเรื่องความมั่นใจนั้นเอง

ความเสี่ยงที่จะผู้ดูดไขมันจะได้รับ

●ผิวไม่เรียบคล้ายเป็นคลื่น เนื่องจากผิวหนังของคนเราถูกขยายตึงด้วยชั้นไขมัน หากไขมันส่วนนี่หายไปก็จะทำให้บริเวณดังกล่าวหย่อนยานได้ในระยะเวลาแรกๆ และจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติในภายหลัง(แต่อาจจะต้องอาศัยการศัลยกรรมตกแต่งเข้าช่วย)

ชาบริเวณแผลผ่าตัด เป็นอีกสิ่งที่ต้องประสบพบเจอกับผู้ที่ดูดไขมัน แต่อาการชานี้จะค่อยๆ ทุเลาลงในภายหลังครับ

●ภาวะแทรกซ้อนจากการนำไขมันออกปริมาณมากเกินไป ซึ่งการจะดูดไขมันควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงจะปลอดภัยที่สุดครับ

●ปวดแผล สามารถทานยาแก้ปวดได้ เป็นอาการทั่วไปที่จะเกิดขึ้นหลังจากทำการดูดไขมัน ผ่าตัดต่างๆ ครับ แต่จะมีอาการมากน้อยเพียงใดนั้นก็จะขึ้นอยู่กับตัวบุคคลเป็นหลักครับ

ไขมันสะสมเกิดจากอะไร?

ไขมันส่วนเกินที่สะสมในร่างกายเกิดจากการได้รับพลังงานและสารอาหารบางอย่างเกินกว่าที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน โดยเฉพาะสารอาหารกลุ่มไขมันและคาร์โบไฮเดรต แม้ว่าสารอาหารเหล่านี้จะมีความสำคัญ แต่การได้รับมากเกินไปก็ส่งผลเสียต่อร่างกายได้ครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “ความเสี่ยงที่อาจได้รับจากการดูดไขมัน” ที่เราได้รวบรวมมาฝากท่านผู้อ่านทุกๆ ท่าน หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับผม